<a href="http://www.quackit.com/" target="_blank">HTML Help</a>
สุขภาพผมไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
บล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของเส้นผม การดูแลรักษา วิธีแก้ไข ฯลฯ
น้ำกะทิและน้ำมะพร้าวช่วยรักษาคนศีรษะล้านได้จริงหรือไม่ ?
ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการ หรือการทดลองที่ทำชัดเจนว่าน้ำมันมะพร้าว หรือกะทิสามารถรักษาผมร่วงได้จริงหรือไม่ แต่มีการปฏิบัติกันมาตั้งแต่ในอดีตเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านว่า กะทิสามารถนำมาใช้ในการบำรุงผม บำรุงหนังศีรษะ ทำให้ผมเป็นประกายเงางาม ทำให้ผมแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยลดผมร่วง และกระตุ้นการเจริญของผมใหม่ได้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากว่าการสระผมทั่วๆ ไป อาจทำให้โปรตีนที่เคลือบอยู่บนเส้นผมตามธรรมชาติหลุดออกไปในระหว่างที่สระผม ซึ่งส่วนประกอบหลักของเส้นผมคือ โปรตีนที่เรียกว่าเคอราติน (Keratins) กะทิ ที่เคลือบเส้นผมสามารถทำให้โปรตีนเกิดการสูญเสีย ออกไปน้อยที่สุด อาจเนื่องจากว่าโปรตีนในน้ำมันมะพร้าวมีความใกล้เคียงกับโปรตีนของเส้นผม และในน้ำมันมะพร้าวมีส่วนประกอบเป็นไขมันสายกลาง (medium chain triglycerides ; MCT ) : ซึ่ง MCT นี้ สามารถผ่านเข้าออกอย่างอิสระที่ผนังเซลล์ และการที่มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยนี้ทำให้สามารถผ่านเข้าออกจากเส้นผมได้อย่าง ง่ายดาย จึงมีประสิทธิภาพในการบำรุงเส้นผมได้ดี อีกทั้งสารเคลือบผมตามธรรมชาติที่เรียกว่า ซีบัม (sebum) ซึ่งคอยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะไม่ให้แห้ง แตกง่ายยังมีส่วนผสมเป็น MCT ซึ่งคล้ายกับที่มีในมะพร้าวด้วย กะทิ ยังช่วยในการดูดซึมวิตามินอี ซึ่งช่วยในเรื่องของการไหลเวียนโลหิต นำพาสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะและรากผมได้ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้กะทิจะมีน้ำมันดังกล่าวแล้ว ยังประกอบไปด้วยเอนไซม์ที่จำเป็นที่มีส่วนช่วยในการหยุดผมร่วง และลดผมหงอกก่อนวัยได้ นอกจากนี้ในกะทิยังมีสารฟาโวนอยท์ (flavonoids) วิตามินอี และ ดี ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญของเส้นผมด้วย มะพร้าวเป็นสารจากธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่มีพิษ ไม่เป็นสารเคมี จึงไม่เป็นอันตรายหากจะใช้กับเส้นผมหรือหนังศีรษะ วิธีการใช้มะพร้าวในการบำรุงหนังศีรษะ ลดผมร่วง มีได้หลายตำรา ยกตัวอย่างเช่น
1. การใช้กะทิ ควรใช้มะพร้าวแก่ ขูดมะพร้าว มาคั้นกะทิสด ๆ ใช้กะทิประมาณ 1 – 2 แก้ว ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ชะโลมกะทิลงบนศีรษะและเส้นผม ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า (ยังไม่ต้องสระผมด้วยแชมพู) วิธีนี้จะทำให้น้ำมันมะพร้าวเคลือบอยู่บนเส้นผมได้นาน ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน แล้วค่อยสระผมด้วยแชมพูอีกครั้งในวันถัดไป วิธีนี้จะทำให้เส้นผมนิ่ม เรียบลื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และจะเริ่มสังเกตได้ว่าผมร่วงลดลง ควรทำวิธีนี้อาทิตย์ละครั้ง แม้ว่าผมร่วงจะดีขึ้นแล้วก็ควรทำต่อเนื่องอย่างน้อย 2 – 3 อาทิตย์ต่อครั้ง วิธีนี้ไม่เฉพาะลดผมร่วงได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ผมร่วงจะเริ่มสังเกตเห็นว่าลดลงเมื่อทำไปประมาณ 2 สัปดาห์ และได้ผลดีเมื่อทำไปแล้ว ประมาณ 2 เดือน อาจเพิ่มประสิทธิภาพโดยการใช้กะทิที่อุ่น ๆ
2. อาจใช้น้ำมันมะพร้าวที่สกัดแล้ว ควรเลือกน้ำมันมะพร้าวที่ใช้วิธีสกัดเย็น เนื่องจากไม่มีการสูญเสียวิตามินธรรมชาติที่มีอยู่ในมะพร้าวไปกับความร้อนใน ขั้นตอนการสกัด ชะโลมที่บริเวณหนังศีรษะ และเส้นผมแล้วนวด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกตอนเช้า การใช้นิ้วมือนวดหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นเส้นเลือดที่มาเลี้ยงหนังศีรษะได้ ด้วย
1. การใช้กะทิ ควรใช้มะพร้าวแก่ ขูดมะพร้าว มาคั้นกะทิสด ๆ ใช้กะทิประมาณ 1 – 2 แก้ว ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ชะโลมกะทิลงบนศีรษะและเส้นผม ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า (ยังไม่ต้องสระผมด้วยแชมพู) วิธีนี้จะทำให้น้ำมันมะพร้าวเคลือบอยู่บนเส้นผมได้นาน ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน แล้วค่อยสระผมด้วยแชมพูอีกครั้งในวันถัดไป วิธีนี้จะทำให้เส้นผมนิ่ม เรียบลื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และจะเริ่มสังเกตได้ว่าผมร่วงลดลง ควรทำวิธีนี้อาทิตย์ละครั้ง แม้ว่าผมร่วงจะดีขึ้นแล้วก็ควรทำต่อเนื่องอย่างน้อย 2 – 3 อาทิตย์ต่อครั้ง วิธีนี้ไม่เฉพาะลดผมร่วงได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ผมร่วงจะเริ่มสังเกตเห็นว่าลดลงเมื่อทำไปประมาณ 2 สัปดาห์ และได้ผลดีเมื่อทำไปแล้ว ประมาณ 2 เดือน อาจเพิ่มประสิทธิภาพโดยการใช้กะทิที่อุ่น ๆ
2. อาจใช้น้ำมันมะพร้าวที่สกัดแล้ว ควรเลือกน้ำมันมะพร้าวที่ใช้วิธีสกัดเย็น เนื่องจากไม่มีการสูญเสียวิตามินธรรมชาติที่มีอยู่ในมะพร้าวไปกับความร้อนใน ขั้นตอนการสกัด ชะโลมที่บริเวณหนังศีรษะ และเส้นผมแล้วนวด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกตอนเช้า การใช้นิ้วมือนวดหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นเส้นเลือดที่มาเลี้ยงหนังศีรษะได้ ด้วย
ยาที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงหรืออาการผมร่วง
ผลข้างเคียงของยาบางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะผมร่วง กระตุ้นให้เกิดศีรษะล้านได้ ยาเหล่านั้นที่อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้แก่
- กลุ่มยารักษาสิว ได้แก่ ยาที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A เช่น Accutane (isotretinoin) ยากลุ่มนี้นอกจากจะทำให้มีเยื่อบุอ่อนแห้งแตกลอกเป็นขุยแล้ว ยังทำให้ผมร่วงได้มากๆ เลย
- ยาลดการแข็งตัวของเลือด มักใช้ในผู้ป่วยหลังการผ่าตัดลิ้นหัวใจ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยที่มีลิ่มเลือดอุดตัน Panwarfin® (warfarin Sodium), Sofarin®, Coumadin Heparin injections
- ยาลดคลอเลสเตอรอลในเลือด Atromid–s® ( clofibrate) Hidil®, Lopid® ( gemfibrozil)
- ยากันชัก
- ยาต้านโรคซึมเศร้า ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและยาคลายเครียด ได้แก่
Anafranil® ( clomipramine)
Elavil® ( amitriptyline)
Norpramin® (desipramine hydrochloride)
Pamelor® (nortriptyline)
Paxil® (paroxetine)
Prozac® (fluoxetine)
Sinequan® (doxepin)
Surmontil® (trimipramine)
Tofranil® (imipramine)
Vivactil® (protriptyline)
Zoloft® (sertraline) - ยาลดน้ำหนัก ได้แก่ ยากลุ่มอนุพันธ์ของ Amphetamines ซึ่งใช้ลดน้ำหนักทำให้ความอยากอาหารลดลง
- ยาฆ่าเชื้อรา ได้แก่ KetoconaZole Fluconazole
- ยารักษาโรคเก๊าฑ์ ยาลดกรดยูริค ได้แก่ Zyloprim® (allopurinol)
- ยาหยอดตารักษาโรคต้อหิน ได้แก่ กลุ่มต่อต้านเบต้า (Beta – blocker drugs) เช่น Timolol® eye drops.
- ยาลดความดันโลหิต ใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ได้แก่ กลุ่มยาต่อต้านเบต้า (Beta – blockers)
Tenormin® (Atenolol)
Lopressor® (metoprolo)
Corgard® (nadolol)
Inderal® (propanolol)
Blocadren® (timolol) - ยากลุ่มฮอร์โมน ทั้ง ฮอร์โมนเพศหญิง และฮอร์โมนเพศชายได้แก่ ยาเม็ดคุมกำเนิด
* การใช้ฮอร์โมนทดแทนในหญิงวัยทอง เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (estrogen และ progesterone)
* ยาฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรจีนิกและเทสโทสเตอโรน (Male androgenic hormones and testosterone)
* สเตียรอยด์ ได้แก่ Prednisolone - ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ ยาแก้ปวดข้อ ข้ออักเสบ ได้แก่ Naprosyn® (Naproxen), Indocin® (indomethacin), Clinoril® (sulindac)
- ยารักษาโรคพาร์กินสัน ได้แก่ Levadopa/L – dopa (Dopar,Laradopa)
- ยารักษาไทรอยด์ หรือฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน
- ยารักษาแผลในกระเพาะอาหารหรือยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ได้แก่ Pepcid® (famotidine), Zantac® (ranidine), Tagamet® (Cimetidine)
ผมร่วงเป็นหย่อมๆ รักษาได้อย่างไร ?
การรักษาผมร่วงเป็นหย่อม ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ผมมีการขึ้นใหม่ในบริเวณที่ร่วงได้เร็วและดีกว่าการปล่อย ให้หายเองแบบธรรมชาติ ในขณะที่อาจพบว่ามีวงของผมที่ร่วงใหม่เกิดขึ้นได้ เป็นไปตามลักษณะการดำเนินไปของโรค การหายของโรคนี้เกิดขึ้นโดยร่างกายเองเท่านั้น ที่จะหยุดภาวะความแปรปรวนของภูมิคุ้มกันที่ไปทำลายต่อรากผม ผมจึงจะหยุดร่วง ดังนั้นการใช้ยาจึงต้องใช้อย่างต่อเนื่องไปจนกว่าภาวะดังกล่าวดีขึ้น หากหยุดยาก่อน ผมที่ขึ้นจากการกระตุ้นของยาอาจร่วงหลุดไปได้เช่นกัน ยาที่ใช้ในการรักษาได้แก่
- ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
มีฤทธิ์ลดการอักเสบและกดการสร้างภูมิคุ้มกัน มีการใช้ทั้งในรูปของยาทาเฉพาะที่, ยากิน และยาฉีดเฉพาะที่เข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่มีผมร่วง สเตียรอยด์ที่นิยมใช้ได้แก่ Clobetasol หรือ Fluocinonide และที่อยู่ในรูปของยาทาหรือ ยาฉีดเฉพาะที่ ในรูปของยาฉีดมักใช้เมื่อผมร่วงเป็นหย่อมเล็กที่บริเวณหนังศีรษะหรือร่วงที่ บริเวณคิ้วหรือหนวด การฉีดจะต้องฉีดทุก ๆ 3 – 6 สัปดาห์ ถ้าเป็นในระยะแรกอาจรักษา โดยการใช้ยาสเตียรอยด์บริเวณที่หลุดร่วง อย่างไรก็ตามการทายาเพียงอย่างเดียวอาจได้ผลไม่ดีนัก เนื่องจากการดูดซึมของยาผ่านบริเวณหนังศีรษะจนถึงระดับของรากผมอาจน้อยกว่า ปริมาณของยาที่ต้องการในการรักษา การรักษาจะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้ยาต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน การใช้ยาสเตียรอยด์ในรูปของยากินได้ผลดีในการลดผมร่วง แต่อาจพบผลข้างเคียงจากการใช้ยาได้ เนื่องจากต้องใช้ยาเป็นระยะเวลานานจนกว่าโรคจะสงบเอง หากหยุดยาก่อนผมจะกลับมาร่วงใหม่ได้ ดังนั้นจึงนิยมใช้ในกรณีที่มีผมร่วงเป็นวงกว้าง หรือมีขนร่วงร่วมด้วย หรือใช้ในช่วงระยะแรกในการรักษา ร่วมกับยาทา - ยาทาไมนอกซิดิล 5% (Topical minoxidil 5% solution)
สามารถกระตุ้นผมขึ้นใหม่ได้ การใช้จะใช้ทาบริเวณที่ร่วงได้ทั้งที่หนังศีรษะ, หนวด, เครา, คิ้ว วันละ 2 ครั้ง สามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ การขึ้นใหม่ของผมจะเริ่มสังเกตเห็นได้เมื่อใช้ยาต่อเนื่องไปประมาณ 3 เดือน - แอนทราลิน (Anthralin)
เป็นผงถ่านสังเคราะห์ มีฤทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการทำงานของภูมิคุ้มกันที่บริเวณผิวหนัง การใช้ทาไว้บริเวณที่มีผมร่วง 20 – 60 นาที แล้วล้างออก เพื่อป้องกันไม่ให้หนังศีรษะเกิดภาวะระคายเคือง ในบางครั้งอาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันในการรักษาผมร่วงเป็นหย่อม ๆ
เคล็ดลับในการดูแลผมมันหรือหนังศีรษะมัน
ภาวะผมมันหรือหนังศีรษะมัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์ความไม่สมดุลของฮอร์โมน สภาวะแวดล้อม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมบริเวณศีรษะ ส่วนใหญ่หนังศีรษะที่มันจะพบว่าร่วมกับผิวมัน อาจพบในหญิงตั้งครรภ์ได้ หนังศีรษะที่มันมาก ๆ มีความสำคัญและทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้ เคล็ดลับข้างล่างนี้จะช่วยในการดูแลผมมัน
- ใช้แชมพูอ่อน, แชมพูสำหรับผมมัน, แชมพูสำหรับหนังศีรษะแห้ง หรือแชมพูสำหรับเด็ก
- สระผมทุกวัน เน้นแชมพูที่บริเวณผม ไม่ใช่บริเวณหนังศีรษะ เนื่องจากอาจทำให้หนังศีรษะแห้งมากได้
- ล้างผมด้วยน้ำเย็น หรือน้ำอุ่นเล็กน้อยมาก ๆ จนผมสะอาดดี เนื่องจากแชมพูที่ตกค้างบริเวณหนังศีรษะ จะทำให้หนังศีรษะแห้งมากได้
- ใช้ทรีทเมนท์น้ำมันร้อน (hot oil treatment) นวดบริเวณหนังศีรษะๆ แล้วล้างออก ไม่ให้เหลือตกค้างที่บริเวณเส้นผม
- ถ้าผมมันมาก อาจไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผม (conditioner) หรืออาจใช้ครีมนวดผมเฉพาะบริเวณปลายผมเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผม ครีมแต่งผมหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยเฉพาะที่ทำจากกรีเซอรีนหรือซีรีโคน (glycetine and silicone) เนื่องจากจะทำให้ผมมันมากขึ้นไปอีก
- ถ้าผมมันมาก ๆ อาจผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนในน้ำ 4 ส่วน ใช้ล้างผมครั้งสุดท้าย หรืออาจใช้น้ำมะนาวผสมน้ำ แทนน้ำส้มสายชูในการล้างผม ทำให้ได้ผมที่พึงพอใจมากกว่าในการลดผมมัน
- ไม่ควรหวีผมมากเกินไป เนื่องจากการหวีผมบ่อยมากเกินไปจะกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามาก
- การถูหรือเกาหนังศีรษะมาก ๆ ทำให้หนังศีรษะผลิตไขมันออกมามากขึ้น
- แชมพูที่มีส่วนผสมจากสารธรรมชาติ ต่อไปนี้ อาจช่วยในการลดความมันและฟื้นฟูสภาพเส้นผม
- น้ำมันโจโจบา (Jojoba oil) เนื่องจากมีส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตน้ำมันเคลือบผม (sebum) จะช่วยลดความแห้งของผมจากการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อลดความมันของผมที่แรงเกินไป ได้
- น้ำมันโรสแมรี่ (Rosemary oil) เป็นสารทำความสะอาดหนังศีรษะที่ดี และช่วยการกระตุ้นรากผม
- น้ำมันทีทรี (Tea tree oil) อ่อนบางและช่วยกำจัดความมันที่มากเกินไปบนเส้นผม ช่วยกำจัดรังแคและแบคทีเรีย
- Sage ช่วยในการละลายน้ำมันที่เกาะอยู่ที่เส้นผมและช่วยทำให้เส้นผมหนาขึ้น
- ยูคาลิปตัส (Eucalyptns) ช่วยให้หนังศีรษะกลับมาผลิตน้ำมันได้อย่างสมดุล โดยควบคุมการผลิตจากต่อมไขมัน (Sebum) ลดและกำจักการอักเสบของหนังศีรษะ
- Chamomile คาโมมายล์ ช่วยทำให้ผมเป็นประกายและแข็งแรง ไม่แนะนำให้ใช้ในผมที่ทำสี เนื่องจากจะทำให้สีผมอ่อนลง โดยเฉพาะผมที่ทำไฮไลท์ (highlights) อาจทำให้สีผมบริเวณไฮไลท์อ่อนลงเป็นสีด่างๆ
นอกจากนี้ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถลดความมันของเส้นผมได้ ได้แก่ อโลเวรา (aloe) , ไข่ขาว , เมนทอล (menthol), ซอบิทอล (sorbitol), kaolin - ดินขาว, กรดผลไม้ (citric acid), แป้ง (starch)
สมุนไพรแต่ละชนิดช่วยเรื่องผมร่วงอย่างไร
- อโลเวรา (Aloe Vera) มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ, ให้ความชุ่มชื้น, หล่อเลี้ยง และช่วยให้เส้นผมคงความแข็งแรง หนา มีการศึกษาพบว่าพืชชนิดนี้มีสารสำคัญตามธรรมชาติ 5 อย่าง ที่ช่วยป้องกันหนังศีรษะอักเสบ
- ลาเวนเดอร์ (Lavender) มีฤทธิ์ที่ดีมากในการต้านการอักเสบและต้านแอนโดรเจน สามารถใช้ในการรักษาภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ได้ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้ผมดูหนาและเปล่งประกายมากขึ้น
- พริก (apsicum) เร่งการขึ้นใหม่ของเส้นผมและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตที่บริเวณหนังศีรษะ พริกเป็นสมุนไพรที่ยอดเยี่ยมในการช่วยลดภาวะผมร่วงที่เกิดจากการที่เลือดและ สารอาหารไปหล่อเลี้ยงหนังศีรษะลดลง
- เบอร์ดอก (Burdock) ช่วยในการรักษาภาวะมีการระคายเคืองของหนังศีรษะ และช่วยทำให้ผมที่บางลง หนาขึ้น นอกจากนี้ยังให้กรดไขมันที่จำเป็น (essential fatty acids) และไขมันธรรมชาติจากพืช (natural phytosterols) กับรากผม ดังนั้นจึงทำให้ผมแข็งแรงและดูเป็นประกาย
- ขิง (Ginger) ช่วยในการกระตุ้นการเจริญของรากผม และมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบอยู่มาก จึงช่วยให้เส้นผมแต่ละเส้นมีความหนาเพิ่มขึ้น
- โรสแมรี่ (Rosemary) กระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่หนังศีรษะ และช่วยกำจัดไขมัน (sebum) และลดรังแคที่หนังศีรษะได้
- เสจ (Sage) ประกอบไปด้วยสารชำระล้างทำความสะอาด และสารต่อต้านเชื้อโรค (anti – septic) กระตุ้นการเจริญของเส้นผม และยังช่วยทำให้ผมแข็งแรงและหนาตัวขึ้น
แก้ปัญหาผมร่วงด้วยตัวเองโดยวิธีธรรมชาติ
วิธีแก้ผมร่วงโดยวิธีธรรมชาติด้วยตนเอง วิธีการที่แนะนำนี้ ทางไทยแฮร์เซ็นเตอร์ รวบรวมและคัดสรรมา คุณสามารถใช้ร่วมระหว่างการรักษาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ได้ มีการรักษาโดยวิธีการใช้สารธรรมชาติที่อาจทำได้ โดยคุณสามารถเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้
- นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันเอสเซนเชียล (essential oil) 2- 3 หยดหรือ น้ำมันพืชเช่น น้ำมันมะกอก นวดจนซึมเข้าสู่หนังศีรษะจนทั่ว ห่อด้วย พลาสติก หรือผ้าอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย และแชมพูอ่อน ปฏิบัติเป็นประจำ วิธีนี้จะช่วยให้รูขุมขนชุ่มชื่นขึ้น
- ผสมน้ำแอปเปิ๊ล กับ ชาเขียว ล้างผมเป็นประจำ จะช่วยให้ผมเจริญขึ้นใหม่ได้ดีขึ้น
- ผสมน้ำมันละหุ่งอุ่นเล็กน้อยและน้ำมันเมล็ดแอลมอนด์ นวดหนังศีรษะโดยทั่ว อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- บดเมล็ดมะนาวกับพริกไทยดำผสมเข้าด้วยกันในขนาดเท่า ๆ กันในน้ำ ทาบริเวณหนังศีรษะเป็นประจำ
- ทาหนังศีรษะบริเวณที่ล้าน ด้วยหัวหอม แล้วตามด้วยน้ำผึ้ง ทำวันละ 1 ครั้ง
- นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันเมล็ดอัลมอนด์วันละ 1 ครั้ง ช่วยลดผมร่วง
- นวดหนังศีรษะและผมด้วย น้ำมันมะพร้าวและอโลเวราเจล ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย ทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- นวดหนังศีรษะและผมด้วยน้ำผึ้งผสมไข่แดงทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออก เพื่อป้องกันการหลุดร่วงของผม
- รับประทานงาขาว 1 กำมือทุกวันตอนเช้า 1 กำมือของงาขาวจะมีแคลเซียมและแมกนีเซียม 1,200 มิลลิกรัม ช่วยเพิ่มสารอาหารของหนังศีรษะให้แข็งแรงขึ้น
- นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันมะพร้าว ทุกวัน 10 -15 นาที ใช้น้ำต้มใบสะเดาทิ้งไว้ให้เย็น ช่วยในการล้างน้ำมันมะพร้าวออก
- เพิ่มการรับประทานเนื้อสัตว์ ถั่ว (เพิ่มการรับประทานโปรตีน) โดยเฉพาะโปรตีนจากถั่วเหลืองหรือนมถั่วเหลืองถ้าสามารถกินได้วันละ 1/2 ลิตรได้ เส้นผมจะงอกใหม่เร็วมาก
- รับประทานโยเกิร์ต 1 ถ้วยทุกวัน
- เพิ่มอาหารพวกผักใบเขียว สลัด จมูกข้าวสาลี และธัญพืช
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)